7 ข้อดีของการมี Wedding Planner (เป็นผู้ช่วย)

7 ข้อดีของการมี Wedding Planner (เป็นผู้ช่วย)

 ช่วยประหยัดเวลา อันมีค่าของคุณ

1. ช่วยประหยัดเวลา อันมีค่าของคุณ –
หนึ่งในเหตุผลหลักที่คู่รักใช้บริการ Wedding planner bangkok คือ การประหยัดเวลาอันมีค่าของแต่ละคนค่ะ  แทนที่จะต้องใช้เวลามาเริ่มต้นตั้งแต่การทำการบ้าน หาข้อมูลอันมากมาย รวมถึงการวางแผนงานแต่งงาน และการดีลกับ supplier ต่างๆ  ซึ่งรวมๆแล้วก็เหมือนจะมีเรื่องราวเป็น 100 เรื่องที่จะต้องจัดการ จนว่าที่บ่าวสาวหลายคู่มึนงง ไม่รู้จะเริ่มยังไงก่อนดี มันเยอะแยะไปหมดเลย (คำนี้พี่ก้อยได้ยินบ่อยมากค่ะ)

Wedding planner มืออาชีพจะช่วยดูแลงานส่วนหลักๆทั้งหมดให้ค่ะ และตัวคู่บ่าวสาวเองจะเลือกได้ว่า อยากทำอะไร ส่วนไหน แค่ไหน หรือจะใช้เวลาแบบไหน  เลือกเฉพาะสิ่งที่อยากทำ ถนัด หรือสนใจ ก็พอ

โดยหลักๆ wedding planner อยากให้คู่บ่าวสาวทุกคน Enjoy Moment ของงานแต่งงานได้อย่างเต็มที่อยู่แล้วค่ะ จะว่าไป.. ตั้งแต่เริ่มจะวางแผนจะแต่งงานเลย คู่บ่าวสาวจะได้ใช้เวลาไปกับการแจกการ์ด พบเจอเพื่อนๆ ญาติๆ รวมไปถึงการทำสวยทำหล่อ เช่น ดูแลผิว ทำเล็บ ทำผม ฯลฯ หรือเลือกที่จะใช้เวลามีความสุขกับวัน Big day ที่จะเกิดขึ้น ไม่ต้องมานั่งปวดหัวกับการแก้ปัญหาเล็กๆน้อยๆที่เกิดขึ้นได้ ซึ่งก็เกิดขึ้นตลอดเวลาเลย

Wedding Planner ที่มีประสบการณ์เป็นอย่างดี จะมีความเชี่ยวชาญในการวางแผน จัดการ บริหาร สิ่งต่างๆ แบบเป็นขั้นเป็นตอน เพราะฉะนั้น วางใจได้ เมื่อมีมืออาชีพมาดูแลอยู่ข้างๆให้อุ่นใจค่ะ

ช่วยบริหารงบประมาณ ให้ใช้อย่างคุ้มค่าที่สุด

2. ช่วยบริหารงบประมาณ ให้ใช้อย่างคุ้มค่าที่สุด
เมื่อมี Wedding planner เข้ามาช่วยดูแลงาน  มั่นใจได้เลยค่ะว่าจะช่วยบริหารงบประมาณให้ใช้อย่างคุ้มค่าที่สุด เพื่อช่วยให้ภาพงานแต่งงานในฝันได้เป็นจริง

ประสบการณ์ที่ผ่านมาของ wedding planner จะเป็นตัวกรอง supplier ที่เหมาะกับแต่ละคู่  ทั้งเรื่อง style  งบประมาณที่เป็นไปได้ และที่สำคัญ ในหลายๆครั้ง ยังมีส่วนลดพิเศษอีกด้วย

หากไม่ได้ใช้ wedding planner งานอันน่าปวดหัวส่วนนี้ คู่บ่าวสาวจะต้องจัดการรับผิดชอบเอง ซึ่งอาจทำให้งบประมาณบานปลายมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ได้

จริงๆแล้ว หลายๆคนอาจจะมองว่า Wedding planner bangkok ก็มีค่าบริการเหมือนกันไม่ใช่หรือ ใช่ค่ะ... มีค่าบริการตรงนี้ด้วย แต่จะเป็นค่าบริการที่ชัดเจน และการทำงานแบบมืออาชีพ มั่นใจได้ว่าลูกค้าจะได้ใช้งบประมาณในทุกๆส่วนอย่างชัดเจน ถูกต้อง และสมเหตุสมผลที่สุด

3. ช่วยหลีกเลี่ยงความผิดพลาดที่อาจทำให้เสียเงินโดยใช่เหตุ  
เมื่อพูดถึงงานแต่งงาน การจัดงานในโอกาสพิเศษแบบนี้ เรื่องค่าใช้จ่ายก็เป็นอีก 1 ส่วนที่หลายๆคนให้ความสำคัญนะคะ ดังนั้นการที่มี wedding planner ช่วยในการเจรจาต่อรองเรื่องราคากับ Vendor ต่างๆ หรือเพิ่ม option ในการทำให้การจ่ายเงิน ใช้ออกไปอย่างคุ้มค่าที่สุด

ตัวอย่างเช่น ไวน์ หากคู่บ่าวสาวจัดการหาซื้อเอง จะต้องจ่ายทั้งหมดในจำนวนที่ซื้อมา ซึ่งบางครั้งอาจจะเหลือ หรืออาจจะไม่พอ แต่ใน way ของ wedding planner จะช่วยดีลกับ Vendor ไวน์ สามารถนำมาประมาณมากกว่าที่แพลนไว้ได้ และหากเหลือ ก็สามารถคืน และจ่ายเท่าที่ดื่มไปเท่านั้นได้ด้วยค่ะ

หรืออีกสัก 1 ตัวอย่างที่เคยเจอหลายครั้ง แม้ว่าจะเป็นเรื่องไม่ได้ใหญ่ แต่ก็ทำให้เสียเวลา เสียเงิน(และเสียอารมณ์ด้วย)โดยใช่เหตุ   นั่นคือเรื่อง”ผ้า”ค่ะ คู่บ่าวสาวบางทีอาจจะอยากจัดหาซื้อผ้าเอง ไม่ว่าจะเป็นผ้าปูโต๊ะ ผ้าชุดเพื่อนเจ้าสาว หรือแม้แต่ผ้าที่ใช้ตกแต่งงาน  เรื่องผ้านี่เกิดความผิดพลาดบ่อยมาก ทั้งเรื่องสี ชนิดผ้า ความหนา ความยาว การเย็บ รอยต่อ ฯลฯ  เรื่องเล็กๆเหล่านี้ wedding planner มืออาชีพ ที่จัดงานมาเป็นร้อยเป็นพันงาน จะทราบเลยว่าแบบไหนที่ต้องใช้เพื่ออะไร ไม่ทำให้เสียเงินโดยใช้เหตุแน่นอนค่ะ

นี่แค่ตัวอย่าง 2 เรื่องเองนะ ยังมีอีกหลายเรื่องที่ทำให้เสียเงินโดยใช่เหตุได้ หากไม่ได้มีประสบการณ์มากพอค่ะ

ช่วยคาดการณ์เหตุการณ์ล่วงหน้า ที่อาจทำให้เกิดปัญหาได้

4. ช่วยคาดการณ์เหตุการณ์ล่วงหน้า ที่อาจทำให้เกิดปัญหาได้
ในวันงาน อาจจะมีเรื่องที่”คาดไม่ถึง”เกิดขึ้นได้หลายเรื่อง แต่ wedding planner จะคอยสังเกตสิ่งเล็กๆน้อยๆ ที่มีแนวโน้มจะเกิดขึ้น และหาแผนสองเตรียมเผื่อไว้ก่อนให้เสมอ (และมีหลากหลายแบบด้วย)

ตัวอย่าง เช่น การจัดงานแต่งงานในสวน (จะพูดถึงเรื่องแดดและเวลาที่พระอาทิตย์ตกอย่างเดียวนะคะ) ในวันที่บ่าวสาวและ wedding planner ไป inspect สถานที่ด้วยกัน อาจจะเป็นกลางปี ช่วงเดือนพฤษภาคม พระอาทิตย์ตก 06.45 น. แต่วันที่จัดงานจริงๆเป็นช่วงเดือนธันวาคม เวลาที่พระอาทิตย์ตกเร็วกว่าช่วงกลางปี อาจจะเป็น 06.15 น. เรื่องเหล่านี้มีผลกับการเก็บภาพของช่างภาพมากๆเลยทีเดียว

หรืออีก 1 ตัวอย่าง (เรายังอยู่ที่จัดงานแต่งงานในสวน กันนะคะ) เจ้าสาวหลายๆคนอยากจะใส่รองเท้าส้นสูงเพื่อเสริมความสง่างามของชุดเจ้าสาว แต่อย่าลืมว่าพื้นที่เราจะจัดงานแต่งงาน ในช่วงที่เราจะจัดงานนั้น เป็นแบบไหน รองเท้าแบบไหนที่จะเหมาะ รองเท้าแบบไหนที่จะทำให้จมดินติดลงไป และพื้นหญ้าที่นั่น แข็งหรือนิ่ม หรือเปียก ในช่วงนั้นไหม เป็นหน้าที่ที่ wedding planner ต้องช่วยตรวจดู สอบถาม และคาดคะเน ปัญหาที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงแนะนำวิธีแก้ไขป้องกันปัญหานั้นๆด้วยค่ะ

ช่วยแนะนำ Vendor ที่เหมาะที่สุด พร้อมยังช่วยคัดเลือก ควบคุม และประสานงานให้ไหลลื่นที่สุด

5. ช่วยแนะนำ Vendor ที่เหมาะที่สุด พร้อมยังช่วยคัดเลือก ควบคุม และประสานงานให้ไหลลื่นที่สุด
Wedding planner ที่มีประสบการณ์ทำงานมาหลายสิบหลายร้อยงาน และแน่นอนที่เราจะได้พบกับ Vendor (Supplier) มาหลากหลายรูปแบบ และเชื่อเถอะว่าเราไม่เลือกใช้ Vendor ที่ไม่มีคุณภาพซ้ำสองแน่นอน เพราะนอกจากจะทำให้บ่าวสาวเสียหายแล้ว การทำงานของ wedding planner เองก็สะดุดด้วยเช่นกัน ไม่สนุกกับการทำงานแบบมืออาชีพแน่ๆ

ประสบการณ์ที่ Wedding planner ได้เคยร่วมงานกับ Vendor ต่างๆ จะช่วยคัดกรองให้คู่บ่าวสาว ได้มีความมั่นใจ ความแน่นอน ความสบายใจ ว่าเราได้คัดเลือก Vendor ที่มีคุณภาพ เชื่อถือได้ ที่เราได้ร่วมงานกันมาก่อน และเหมาะสมที่สุดกับแต่ละคู่จริงๆ

6. ช่วย Recheck ให้แน่ใจ ว่าไม่มีอะไรถูกมองข้ามไป
งานแต่งงานมีรายละเอียดเยอะ เยอะมากๆจริงๆ เรื่องหลักๆก็เยอะมากแล้ว แต่ก็มีรายละเอียดปลีกย่อยที่แต่ละคู่อาจจะมีเหมือนกันอีก  

Wedding planner จะมี checklist มาตราฐานที่ละเอียดในทุกๆงาน เพื่อช่วยกันไล่ทีละรายการว่าสิ่งสำคัญ ที่จะต้องมี ครบแล้วหรือยัง

และด้วยความเก๋าประสบการณ์ของ Wedding planner thailand เรามักจะมองเห็นภาพงานของคู่บ่าวสาวแต่ละคู่ไว้ล่วงหน้าก่อน การเห็นเป็นภาพทำให้เราเห็นแต่ละจุด ว่าจะต้องมีอะไรอยู่ที่ไหน ตอนไหนจะเกิดอะไรขึ้น ซึ่งเป็นการ recheck ไปในตัวว่า สิ่งที่คู่บ่าวสาวเตรียมไว้ ครบแล้วหรือยังนะ

 ช่วยให้คุณเห็นภาพงานในฝันชัดขึ้น และช่วยสื่อสาร จัดการ ให้สิ่งเหล่านั้นเกิดขึ้นจริง

7. ช่วยให้คุณเห็นภาพงานในฝันชัดขึ้น และช่วยสื่อสาร จัดการ ให้สิ่งเหล่านั้นเกิดขึ้นจริง
บ่าวสาวบางคู่มีภาพงานในฝันที่ชัดเจน แต่ในขณะเดียวกันหลายๆคู่ก็ไม่ได้มีภาพงานในฝันที่ชัดเจนเช่นกัน อีก 1 หน้าที่ของ wedding planner รับจัดงานแต่งงาน คือ การรับจัดงานแต่งทำให้ภาพ”งานแต่งงานในฝัน”เป็นจริง ในบางครั้งคู่บ่าวสาวบางคู่ก็ทำ Vision board ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีมาก เพราะมันเป็นไกด์มนการเตรียมหลายๆอย่างให้ไปในทางเดียวกัน และยังเหมือนการ recheck ได้อีกว่า สิ่งที่เราต้องการนี้ ได้ทำจริงๆหรือยังนะ

ในการทำงานร่วมกับคู่บ่าวสาว Wedding planner จะขอรูป reference งานแต่งงานที่บ่าวสาวอยากได้  เอามารวบรวม และคัดเลือก คัดกรอง และสัมภาษณ์บ่าวสาวก่อนว่า รูปไหนชอบอะไร เพราะอะไร พอสรุปเห็นแนวทางกันแล้ว ก็มาจัดทำเป็น Mood & Tone ของงาน หรือที่เรียกว่า Vision board น่ะแหละค่ะ เหมือนเป็นการประกอบรูปร่างงานให้ชัดเจนขึ้น และใช้สิ่งนี้ในการสื่อสารกับ Vendor ทุกๆฝ่าย เพื่อให้ทุกคนเข้าใจตรงกัน และทำงานไปในทางเดียวกันจนจบงาน

สนใจ Wedding Planner Bangkok รับจัดงานแต่งงาน ติดต่อได้ที่
Facebook : Harmonize all your wedding
Call : 0944519654
Line : Harmonize Wedding

บทความน่าสนใจ

Harmonize all your Wedding.co.,ltd.

บริษัท ฮาร์โมไนซ์ ออล ยัวร์ เวดดิ้ง จำกัด

16 ซอยบางแค 12 แขวงบางแค เขตบางแค กทม 10160

TAX ID : 0-1055-62053-45-3

© HARMONIZE  ALL YOUR WEDDING.​ All right reserved